EMPATHIC COMMUNICATION@WORK

Empathic Communication @Work

ศิลปะการสื่อสาร เพื่อการทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจ

 

“ฟังด้วยความเข้าใจ ให้ถึงความต้องการ

สื่อสารด้วยความตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์

 

________________________________________

 

โปรแกรมนี้ตอบโจทย์อะไร (Why you needs this program)

 

"การสื่อสาร" (Communication) คือ ทักษะอันเป็นของขวัญที่งดงามที่มนุษย์ได้มาเพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน แต่กลายว่า การสื่อสาร กลับเป็นปัญหาคลาสสิค ที่เจอพบเจอกันในทุกส่วนของการใช้ชีวิต ทั้งในครอบครัวและที่ทำงาน    องค์กรโดยมากเติบโตมาจากแนวทางการบริหารแบบที่มีระดับชั้น (Rank) ที่สลับซับซ้อน สิ่งนี้ทำให้เกิดการทำงานแบบ Silo ทั้งการแบ่งเขตแดนของการทำงานระหว่างหน่วยงาน รวมถึงการสื่อสารที่มีการแบ่งขั้น แบ่งชั้น ทั้งการสื่อสารจากบนลงล่าง และล่างขึ้นบน ก็ต้องทำไปทีละชั้น เส้นแบ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้เกิดปัญหาสำคัญในการสื่อสารในหลากหลายองค์กร ทำให้ปัญหาที่ถูกซ่อนไว้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที ทั้งปัญหาในงาน รวมถึงปัญหาช่องวางทางความสัมพันธ์

 

การสื่อสาร ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการรับ-ส่งสาส์น เพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันเท่านั้น แต่การสื่อสารยังเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้และสร้างนวัตกรรม สิ่งให่ๆไปพร้อมๆ กัน หากเราสามารถสื่อสารได้ดี มีคุณภาพ จะช่วยให้ทั้งตัวเราและกลุ่มเกิดความเข้าใจ  ได้เรียนรู้สิ่งใหม่จากเรื่องราว และอาจเกิดความคิดต่อยอดที่นำไปสู่การพัฒนา  ดังนั้น ทักษะการสื่อสารจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ทั้งหัวหน้างานและสมาชิกในทีมจะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น  ยิ่งในโลกที่ก้าวมาสู่ยุคดิจิตัล ที่ต้องการความรวดเร็ว การสื่อสารยิ่งมีความสำคัญมากๆ กับการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและการทำงานที่คล่องตัว (Agility)

 

โปรแกรม Empathic Communication@Work  ได้ออกแบบ มาเพื่อช่วยบ่มเพาะทักษะสำคัญเหล่านี้ผ่านพื้นฐานของการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่แท้จริงในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผู้เรียนได้สร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพร่วมกัน ผ่านหลักสำคัญของการสร้างกระบวนการสื่อสารที่นำไปสู่ความเข้าใจที่แท้จริง (Empathic Communication) ตั้งแต่ การเข้าใจในตัวตนและธรรมชาติของตัวเราและผู้อื่น ,การสร้างความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างการสื่อสารแบบเปิด (Openness) และที่สำคัญก็คือ การฟังเชิงลึกด้วย Empathic Listening และการสื่อสารเชิงบวก (Positive Conversation) ในบริบทต่างๆ  เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริงที่ทำให้เกิดการสื่อสารที่มีคุณภาพในองค์กร และเปิดพื้นที่ให้สมาชิกทุกคนได้มี “เสียง” ให้พวกเขาสามารถส่งเสียงของความรู้สึก (Feeling)  และความต้องการที่แท้จริง (Needs) ของตนออกมาได้เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้  ช่วยกันดูแล และใช้เป็นสะพานที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันอย่างแท้จริง บนโลกที่มีความสลับซับซ้อนนี้ (Complexity)

 

 

วัตถุประสงค์ ความตั้งใจของโปรแกรมนี้

 

  • ผู้เรียนเข้าใจและเข้าถึงองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้คน “เปิดใจ” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสื่อสาร ผ่านองค์ความรู้ทางสมอง จิตวิทยา โดยเฉพาะบทเรียนเกี่ยวกับความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ
  • ผู้เรียนเกิดทักษะใหม่ในการสื่อสารเชิงบวก ทั้งการฟังอย่างลึกซึ้ง การตั้งคำถาม การสะท้อน การเล่าเรื่อง และการสื่อสารความจริงอย่างมีเยื่อใย
  • ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในความแตกต่างและเบื้องหลังพฤติกรรมของผู้คนมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการสื่อสารให้มีความละเอียดอ่อน สามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่สร้างสรรค์
  • ยกระดับและพัฒนาวัฒนธรรมและการสื่อสารภายในองค์กร ให้เกิดความเข้าใจและเกิดบรรยากาศของการทำงานร่วมกันที่นำไปสู่การเรียนรู้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ พัฒนาองค์กรไปด้วยกัน

 

สิ่งที่จะได้เรียนรู้จากโปรแกรมนี้ (Learning Point)

 

 

ในโปรแกรมนี้เราจะเน้นสองส่วนสำคัญ คือ 1. การฝึกฝน ติดตั้งทักษะการสื่อสารเพื่อความเข้าใจ ทั้งการตระหนักรู้ในตนเอง (Self Awareness) การรับฟังเชิงลึก (Active Listening) และการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา (Radical Feedback)  2. การนำไปใช้งานจริง (Empathic Communication in Application) การจำลองการฝึกที่นำโจทย์จริงมาใช้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานได้

 

  • ความหมายและความสำคัญของ Empathic Communication ในโลกยุคดิจิตัล
  • เข้าใจความแตกต่างของคนที่หลากหลายด้วยแนวคิดของผู้นำสี่ทิศ (เรียนรู้ที่มา และกรอบความเชื่อ คุณค่า ความคาดหวังและความแตกต่างของคนแต่ละทิศ )
  • แนวทางการสื่อสารและการดูแลกัน ทำงานร่วมกัน   
  • สมองสามชั้น กับการสร้างพื้นที่ปลอดภัย
  • ความสำคัญของพื้นที่ปลอดภัยและแนวทางการสร้างพื้นที่ปลอดภัย
  • ช่องทางการสื่อสารที่มีผลต่อการรับรู้ (สีหน้า ท่าทาง , น้ำเสียง และ ถ้อยคำ)
  • โหมดปกป้อง กลไกการป้องกันตัว เมื่อไม่ปลอดภัย
  • กับดักการฟัง อุปสรรคที่ลดคุณภาพของการรับฟัง
  • การฟัง 4 ระดับ ตามแนวทางของ Theory U
  • การฟังอย่างเข้าถึงเจตนาเพื่อข้ามพ้นความขัดแย้ง
  • การสื่อสาร การพูดด้วยความเข้าใจและการให้ Feedback ที่สร้างสรรค์
  • การใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม การเรียนรู้ และการหาทางออกร่วมกัน
  • สมอง 2 ซีกกับการสื่อสาร และการใช้ “เรื่องเล่า” เพื่อสื่อความเข้าใจ
  • การสร้างวิถีการสื่อสาร Empathic Communication ในองค์กรให้เกิดเป็นวัฒนธรรม
    • การพูดคุยกับแบบ 1-1
    • การประชุมทีมและการระดมความคิดเห็น

 

 

 

 

สนใจหลักสูตร หรือ งานที่ปรึกษา ติดต่อเราได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Contact Excellent People (google.com)

หรือ ติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์  080-4594542  (ออ ณรัญญา)
ID Line : aornarunya

 

 

 

Visitors: 150,972