Leading Team Performance by CFR

 
 

ศิลปะการนำผลงานทีมและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วย CFR 

“ กระบวนการสนทนาที่มีคุณภาพ  ที่นำสู่การเปลี่ยนแปลง เรียนรู้และพัฒนาที่ไม่รู้จบ”

 

โปรแกรมนี้ตอบโจทย์อะไร (Why you needs this program)

กระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาองค์กรต่างๆ ปรับตัวแทบไม่ทัน ใครที่ตกเทรนด์ตามไม่ทันความเป็นไปของโลกย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูก Disrupt ได้ง่ายๆ ซ้ำแนวคิดที่เคยสร้างความยั่งยืน เคยใช้ได้ผลในอดีตก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้ผลกับยุคสมัยปัจจุบัน จากที่เราเคยวางแผน ตั้งเป้าผลงานแบบเป็นรายปี หรือ 3-5 ปี ตอนนี้ เรากลับต้องเริ่มปรับมามองเป้าหมายสั้นๆ ที่ยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น

เมื่อลักษณะการตั้งเป้าหมายเปลี่ยนไป กระบวนการบริหารผลงาน (Performance Management) ย่อมต้องเปลี่ยนตามไปด้วย จากเดิมที่ทำกันเป็นรายปี เน้นที่การมองผลลัพธ์สุดท้ายปลายทาง คล้ายการแจกโจทย์ให้คนทำงานแต่ละคนไปในช่วงต้นปี แล้วค่อยกลับมาเจอกันอีกทีตอนปลายปีเพื่อประเมินว่าใครบ้างที่วิ่งถึงเส้นชัย และใครบ้างที่ไม่ถึง ตอนนี้ ด้วยโลกที่เปลี่ยนไป องค์กรอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนมุมคิด และปรับตัวให้ทัน แนวทางการบริหารผลงานจึงต้องเน้นไปที่ “การพัฒนาผลงานอย่างต่อเนื่อง (Continuous Performance Management)” ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้คนทำงานเกิดการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่ทำงานสำเร็จเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีประสบการณ์และมีความสามารถที่เพิ่มมากขึ้นด้วย รวมถึงเป็นกระบวนการที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ แต่มีพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือ ช่วยกันมอง ช่วยกันคิดเพื่อปรับเปลี่ยนและพัฒนากลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ตลอดจนสนับสนุนกันในด้านของขวัญกำลังใจในการฝ่าฟันความท้าทายไปสู่เป้าหมาย

หัวใจสำคัญของการบริหารผลงานที่มีความต่อเนื่องซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นั้น จำเป็นจะต้องใช้ “การพูดคุยสนทนาที่มีคุณภาพ และสม่ำเสมอ” การพูดคุยที่มีคุณภาพที่เพียงพอจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้และไอเดียในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้มีชื่อเรียกว่า CFR (Conversation , Feedback ,Recognition) กระบวนการอันเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ซึ่งประกอบไปด้วย การสนทนาที่มีคุณภาพ (GREAT Conversation) ,  การให้ฟีดแบ็กเพื่อการพัฒนา (Feed Forward) และ การชื่นชมให้พลังใจ (Recognition)   CFR เป็นกระบวนการที่พัฒนามาจากพูดคุยที่ใช้การบริหารผลงานในทีมกีฬา ซึ่งเป็นต้นแบบกรณีศึกษาสำคัญในการสร้างผลงานที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระบวนดังกล่าวยังมีการนำหลักทางจิตวิทยา ในแนวทางของไดอะล็อกและโค้ชชิ่งมาปรับใช้ทำให้กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพูดคุยตามที่เข้าใจในแบบเดิม แต่เป็นการพูดคุยสนทนที่มีพลัง เอื้อให้มนุษย์ได้ใช้ศักยภาพที่แท้จริง ใช้ปัญญาร่วม (Collective Wisdom) มาสร้างสรรค์และพัฒนาองค์กรให้เติบโตยิ่งขึ้น

 

วัตถุประสงค์ (Key Objectives) 

1.  ให้ทุกคนได้เข้าใจในกระบวนการ CFR และตระหนักถึงความสำคัญ รวมถึงประโยชน์ของกระบวนการ
2. ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ และเข้าใจแนวทางปฏิบัติด้วยตนเอง เพื่อที่จะได้นำไปประยุกต์ต่อยอดกับกิจกรรมที่มีอยู่หรือสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ในองค์กร
3. ช่วยพัฒนา ยกระดับกิจกรรมการสนทนาในองค์กรให้มีคุณภาพของการสื่อสาร ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ร่วมกัน และพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
4. ให้ CFR เป็นกระบวนการที่สนับสนุนให้ทุกคนกลับมาเป็นเจ้าของงาน (Sense of Ownership) และตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะนำพาตนเองและทีม ไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้
 
 
หัวข้อหลักและจุดเน้นการเรียนรู้ ในโปรแกรมนี้ (Key Learning Topics)

จุดเน้นในโปรแกรมนี้มีอยู่ทั้งหมดสามส่วน หนึ่ง คือความเข้าใจในเชิงแนวคิดของกระบวนการ CFR การพูดคุยที่ดูเผินๆ อาจเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่การจะทำให้การพูดคุยแต่ละครั้งมีคุณภาพ แท้จริงแล้วมีรายละเอียดสำคัญอะไรซ่อนอยู่บ้าง สอง คือการฝึกปฏิบัติทักษะสำคัญต่างๆ ทั้งในฐานะสมาชิก และผู้นำการสนทนา และสาม คือการออกแบบ และปรับประยุกต์ให้ CFR สามารถนำไปใช้ได้ในบริบทขององค์กรจริงได้ โดยหัวข้อการเรียนรู้ต่างๆ จะมีดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 : Principle to CFR (Conversation –Feedback- Recognition)

  • ความหมายและความสำคัญของการบริหารผลงานอย่างต่อเนื่อง กับโลกยุคปัจจุบัน
  • CFR คืออะไร ทำไมถึงองค์กรต้องการ CFR (Conversation - Feedback - Recognition)
  • CFR แตกต่างกับการสนทนาที่มีอยู่ ขององค์กรอย่างไร ?
  • บทบาทหน้าที่ของผู้นำ กับการสร้างกระบวนการ CFR (CFR Facilitation)
  • GREAT Concept กับกระบวนการ CFR
  • CFR กับการบริหารผลงานอย่างต่อเนื่อง , การสร้างนวัตกรรม , การสร้างวัฒนธรรม และการเรียนรู้

 ส่วนที่ 2 : The Essential Skills for CFR (Conversation –Feedback- Recognition)

  • 4 เฟส กับการสนทนาที่มีคุณภาพ
  • วินัยสำคัญในการสนทนาที่มีคุณภาพ (Discipline of GREAT Conversation)
  • ทักษะการฟังที่ลึกซึ้ง และการสะท้อน (Deep Listening & Reflection Skills)
  • ฝึกฝนการตระหนักรู้และการสร้างความปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety)
  • ศิลปะการให้ฟีดแบ็กที่สร้างสรรค์ เพื่อการพัฒนา (Art of Giving Feedback for Growth)
  • การชื่นชม 6 ช่องทาง เพื่อสร้างพลังสู่การเติบโต (Recognition)

 ส่วนที่ 3 : CFR in Practices

ศิลปะการสนทนาด้วยกระบวนการ CFR
  • กระบวนการสำคัญของ CFR (Core Process of CFR)
  • การตั้งโจทย์และสร้างกิจกรรม Check-in และ Check-out ที่ทรงพลัง
  • เทคนิคการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และการสร้างสรรค์
  • ศิลปะการดูแลความเห็นต่าง และสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงกับความขัดแย้ง ให้เป็นการคิดร่วมที่สร้างสรรค์ (Creative Conflict Facilitation)
การติดตั้งกิจกรรม CFR ในการบริหารผลงานจริงในองค์กร
  • การนำ CFR ไปใช้ในการสนทนาแบบกลุ่ม/ทีม  Group Conversation
  • การนำ CFR ไปใช้ในกิจกรรมการโค้ชแบบ 1-1 Coaching
  • กิจกรรม Self Reflection หัวใจสำคัญของ CFR
  • หัวใจสำคัญที่ทำให้ CFR เกิดผล และ หลุมพรางที่ทำให้ CFR ล้มเหลว
  • ตัวอย่างเคส องค์กรที่ใช้ CFR จนเกิดผลจริงในองค์กร
  • การออกแบบกระบวนการ CFR ให้เหมาะกับบริบทองค์กรของตน
  • ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้ประกอบกับ CFR เช่น Growth Book , Performance Check-in , Collaboration Board

 

 

ทักษะที่ได้รับการฝึกฝน (Essential Skills Development)

  • ทักษะการสนทนา (การสนทนา , การให้และรับฟีดแบ็ก , การชื่นชม)  และนำการสนทนาตามแนวทาง CFR  
  • ความเข้าใจในกระบวนการบริหารผลงานอย่างต่อเนื่อง (Continuous Performance Management)
  • การประยุกต์การ CFR กับการบริหารผลงาน การสร้างทีมและวัฒนธรรม การเรียนรู้ของทีม การสร้างนวัตกรรม (CFR in Practice)

 

กิจกรรมที่ฝึกปฏิบัติ (Possible Practices)

 

 

ลงทะเบียนเข้าอบรม ได้ที่  https://shorturl.at/glCM8 

 

สนใจ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

080-4594542 (ออ ณรัญญา)
Line id : aornarunya

 

 

Visitors: 159,846