The Ultimate Coaching for Building Self-Management Team

ศิลปะการโค้ช เพื่อพัฒนาผลงานและพัฒนาทีม

“มนุษย์ทุกคนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมรอวันเติบโต

 ผู้นำวิถีโค้ช คือ ความหวังและร่มเงา

ที่ช่วยบ่มเพาะให้ผู้คนในทีม เติบโตอย่างมั่นคง

และสามารถจัดชีวิตให้สมดุลทั้งงานและชีวิตส่วนตัว”

 

โปรแกรมนี้ตอบโจทย์อะไร (Why you needs this program)

โปรแกรมนี้ถูกออกแบบมาจากมุมมองการบริหารที่ต่างไปจากยุคดั้งเดิม (Traditional)  ซึ่งเดิมเราจะคุ้นชินกับภาพของผู้นำ หรือ ผู้จัดการ ที่มีบทบาทในการ “การจัดการ ควบคุม กำกับ” (Management and Control) ในยุคก่อนหน้านี้ เราต้องการผู้นำที่เก่ง รอบรู้ สามารถคิด วางแผน ตัดสินใจและนำทีมไปสู่เป้าหมายได้ ดังที่สอดคล้องกับภาพซ้ายมือ เราต่างเติบโตมาจากโครงสร้างพีรามิด Hierarchy ที่ผู้นำมีอำนาจในการกำหนดทิศทาง สิ่งที่ผู้นำต้องการจากสมาชิกของทีม คือ การทำหน้าที่ตามบทบาท ตาม Job Description ของตัวเองให้ดีที่สุด และทำตามแผน ตามกรอบที่ผู้จัดการวางไว้ก็เพียงพอ  รากฐานการบริหารหรือนำทีมแบบนี้ เกิดขึ้นและรับอิทธิพลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม พวกเขานำแบบแผนการทำงานของเครื่องจักรมาใช้กับการบริหารงาน บริหารคน

แต่ในที่สุดเราก็พบข้อจำกัดจากการบริหารแบบเดิม เริ่มมีการศึกษาและค้นพบว่า การบริหารแบบดั้งเดิมไม่อาจตอบโจทย์โลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ผู้คนต่างเรียกร้องที่จะได้แสดงความเป็นตัวของตัวเอง (Autonomy) ได้รู้สึกว่าตัวเองหรืองานของตัวเองมีคุณค่า และปรารถนาที่จะทำงานร่วมกันอย่างยืดหยุ่น (Flexible and Collaboration)  สัญญาณเหล่านี้ได้ให้ภาพใหม่ของ ผู้นำ หรือ ผู้จัดการทีม (Manager)  ที่ขยับมาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล จัดการสภาพแวดล้อมการทำงาน

เป็นภาพฝันของผู้นำองค์กรจำนวนมากที่พวกเขาอยากจะเห็น พนักงานได้แสดงศักยภาพ ความเป็นผู้นำในตัวเองออกมาร่วมกันพัฒนาองค์กร  ได้เห็นพวกเขา“อิน” กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจโดยไม่ต้องรอให้ใครสั่ง และร่วมไม้ร่วมมือกันในการทำงานที่สนุก  ซึ่งภาพฝันนี้ เป็นภาพของ “ทีมจัดการตัวเอง” (Self-Management Team) หรือที่ได้ยินกันในบ้านเราบ่อยขึ้นกับคำว่า Agile Team ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน มีงานวิจัยศึกษาทีมหรือองค์กรจัดการตัวเองในรอบโลก พบว่า ทีมหรือองค์กรแนวนี้ สามารถสร้างผลผลิต หรือ Productivity มากขึ้น 30% การที่พนักงานทุกคนสามารถนำความเป็นผู้นำในตนเอง (Self-Leadership) ออกมาร่วมกันสร้างสรรค์งานโดยได้รับอิสระและความไว้วางใจให้ลองตัดสินใจกันเอง  ซึ่งรากฐานความเชื่อของการสร้างทีมหรือองค์กรแบบนี้ได้ มาจากความเชื่อและความมั่นใจที่พวกเขามีต่อ “มนุษย์”  องค์กรหรือทีมลักษณะนี้ ผู้นำจะไม่ได้ทำหน้าที่สั่งการ กำกับ ควบคุมแบบที่เราคุ้นเคย

“ถ้าเราจะสร้างทีมหรือองค์กร ที่ทุกคนได้จัดการตัวเองและแสดงศักยภาพ ความเป็น Talent ได้  ...ผู้นำของทีมจะต้องเป็นแบบไหน?”

ผู้นำจะต้องปรับบทบาทมาสู่ .....”ผู้นำแบบโค้ช” (Coach)   ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในแวดวงธุรกิจมีความสนใจในการศึกษาการบริหาร และการนำทีมกีฬามาก โดยเฉพาะกีฬาประเภททีม พวกเขาพบว่าทีมที่มีผลงานดีและเล่นเป็นทีมมาก จะมีผู้จัดการหรือโค้ชที่เก่ง ที่สามารถดึงศักยภาพ แรงขับของสมาชิก รวมถึงการสร้างวิถีการเล่นร่วมกันที่ทำให้ทุกคนเฉิดฉาย ได้แสดงผลงานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง   ซึ่งแนวทางการทำงานของโค้ชได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารทีมในโลกยุคใหม่ โดยผสมผสานความเข้าใจในเรื่อง “จิตวิทยา” เกี่ยวกับมนุษย์และองค์กรเข้าไป ซึ่ง ผู้นำแบบโค้ช จะเน้น

  • ทำความเข้าใจและเชื่อมั่นในศักยภาพของสมาชิกแต่ละคนในทีม พร้อมช่วยให้พวกเขามองเห็นของดีและแรงขับในตัวเองผ่านการสะท้อนและชวนสำรวจ   (Reflection & Empowerment)
  • สร้าง”จุดร่วม และฝันของทีม” ที่มีความชัดเจน เพื่อเป็นแกน หรือ จุดที่ดึงดูดพลังของทีมเข้าด้วยกัน
  • บ่มเพาะทักษะที่สำคัญที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของสมาชิก (Build Skills for Confidence)
  • ชวนคิด ชวนคุย ชวนฝัน ชวนลอง ผ่านการสร้างบทสนทนาที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วม ได้มีแรงใจ มีความอยากที่จะลองทำจริงๆ  (Encourage , Inspire and Engage People)
  • สร้างโอกาส สร้างสนามให้ทีม ให้สมาชิกได้ลองทำ และเรียนรู้ด้วยกัน โดยคอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ (Motivate Actions and Create Experience)

 

หลักสูตร Ultimate Coaching for Growth -The art of empower and inspire team  โปรแกรมนี้เน้นการฝึกฝนทักษะง่ายๆ บนพื้นฐานของวิชาคน ตามแนวทาง The Ultimate Coaching ที่ผสมผสานศาสตร์และศิลป์แห่งการพัฒนาคน ทั้งการโค้ชและการให้คำปรึกษาเข้าด้วยกัน โดยบูรณาการองค์ความรู้ในการโค้ชหลากหลายแขนงมาสร้างเป็นกระบวนการที่เรียบง่าย เพื่อให้ผู้นำยุคใหม่สามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลและพัฒนาลูกทีมของตน ให้สามารถดูแลจัดการตนเอง ทั้งในด้านการงาน และชีวิต ได้อย่างสมดุล (Work & Life Balance) นอกจากนี้ หลักสูตรนี้ยังจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างหัวหน้าทีม กับลูกทีม ให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้นด้วยผ่านกระบวนการพูดคุยแบบตัวต่อตัว (1 on 1)

 

วัตถุประสงค์ (Key Objectives) 

  1. บ่มเพาะ Mindset และทักษะสำคัญในการโค้ชชิ่งให้กับผู้เรียน เพื่อใช้ในการดูแลและพัฒนาทีมงานให้เติบโต สามารถสร้างคุณค่าที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
  2. สร้างการตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำในวิถี “โค้ช” ที่ช่วยสนับสนุนทีมงานให้ได้แสดงศักยภาพ ความเป็นผู้นำในตัวเองมาช่วยกันสร้างทีม สร้างผลงานและเรียนรู้ร่วมกันได้
  3. วางรากฐานของการสร้างวัฒนธรรมการโค้ช (Coaching Culture) วิถีการสร้างทีมงานและผลงาน ที่นำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

หัวข้อหลักและจุดเน้นการเรียนรู้ ในโปรแกรมนี้ (Key Learning Topics)

เน้นการสร้างความเข้าใจ Mindset สำคัญของการเป็นผู้นำในบทบาทโค้ช และฝึกฝนทักษะสำคัญของการโค้ชในโจทย์ที่นำไปใช้จริงในองค์กร ให้ช่วยเพิ่มผลงาน การเรียนรู้พัฒนาทีม และการสร้างความสัมพันธ์ ความเป็นปึกแผ่นของทีม  รวมถึงการนำการโค้ชไปติดตั้ง สร้างเป็นวัฒนธรรม หรือ วิถีการบริหารงานของผู้นำ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องผ่านเครื่องไม้เครื่องมือที่เรียบง่าย สามารถหลอมรวมไปกับชีวิตการทำงานได้อย่างกลมกลืน

  • “ทำไมการโค้ชถึงสำคัญกับการนำทีม” ความสำคัญและความหมายของการโค้ช
  • แนวคิดของ “องค์กร/ทีมจัดการตัวเอง” (Self-Management Team)
  • บทบาทของผู้นำกับการเป็น”โค้ช”  (Leader as a Coach)
  • “หัวใจของโค้ชและสิ่งที่โค้ชเชื่อ”  Mindset ของผู้นำวิถีโค้ช
  • 3 A (Awareness , Alignment , Act )  กับการโค้ชเพื่อการเปลี่ยนแปลง
  • Sartir iceberg for Inner Transformational
  • TAPS Model การโค้ชและการนำทีม
  • ทักษะสำคัญ ของการโค้ชชิ่ง (The Essential Skills of Coaching)
    • คำถาม 4 แบบ และศิลปะการตั้งคำถาม (The Art of Asking)
    • การสร้างความไว้วางใจ (Build Trust) และการ Reframe
    • การสร้าง Empower Conversation ด้วย GROW Model
    • การนำกระบวนการโค้ชไปใช้จริงในการพัฒนาทีมงาน ในองค์กร
    • การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน หรือ สร้างสรรค์งานใหม่ๆ / โครงการ
    • การสร้างทีมงานและสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม
  • Ultimate Coaching Process "เล่า-ทวน-ถาม-ร่วมคิด-เลือก"
  • ตัวอย่างเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการโค้ช ในที่ทำงาน เช่น Coachee Profile , Coaching Note ฯลฯ
  • ศิลปะในการให้คำปรึกษา การร่วมคิด และการแนะนำ
  • Ladder of Empowerment บันได 7 ขั้นของการให้อำนาจ
  • ศิลปะการให้ฟีดแบคเพื่อสร้างการเติบโต (Art of Giving Feedbacks)
  • E+R=O สมการการเติบโต และการเห็นทางเลือกในงานและชีวิต
  • จุดใส่ใจ และจุดที่ควรระวังในการโค้ช
  • เคส/กรณีศึกษาขององค์กรที่โค้ชชิ่งไปใช้จริงในการสร้างวัฒนธรรม Coaching และการสร้างทีมจัดการตัวเอง เช่น Buurtzorg , Pronoia Group เป็นต้น

 

ทักษะที่ได้รับการฝึกฝน (Essential Skills Development)

  • มายด์เซ็ทและพลังงานของของความเป็นโค้ช (Being Coach)
  • ทักษะสำคัญในการโค้ช ได้แก่ การตั้งคำถาม การรับฟัง การสะท้อน การสร้างความไว้วางใจ และการรีเฟรม  (Essential Skills for Coaching)
  • ทักษะในการให้คำปรึกษา (Advise Skills)
  • ความเข้าใจในกระบวนการโค้ช เพื่อการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา (Transformational Coaching Processes)
  • การประยุกต์การโค้ชกับการบริหารและพัฒนาทีม (Coaching@Work)

 

กิจกรรมที่ฝึกปฏิบัติ (Possible Practices)

 

 

ลงทะเบียนเข้าอบรม ได้ที่  https://shorturl.at/glCM8 

 

สนใจ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

080-4594542 (ออ ณรัญญา)
Line id : aornarunya

 

 

 

Visitors: 159,851