BEYOND SUPERVISOR ESSENTIALS

 


โปรแกรมนี้ออกแบบจากความตั้งใจ ที่จะช่วยพัฒนาและสร้าง “หัวหน้างาน/หัวหน้าทีม” (Supervisor) ในภาพใหม่ที่ช่วยเสริมให้เกิดการทำงานเป็นทีมมีพลัง และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง การพัฒนา  ซึ่งเป็นอีกขั้นที่ขยับจากภาพจำเดิมที่เราเคยเห็นหัวหน้าทีมที่เติบโตมาจากคนทำงานที่เก่ง ที่มีประสบการณ์หรือผลงานดี ขึ้นมาทำหน้าที่มอบหมายงาน ควบคุม ติดตาม ตรวจสอบ และสอนงาน เพื่อให้ทุกคนทำงานได้ตามเป้าหมาย

BEYOND SUPERVISOR ESSENTIALS ตระหนักว่าบทบาทและสมรรถนะของหัวหน้าทีม ที่เราเคยมองเขาเป็น “ผู้บังคับบัญชา” อาจจะไม่เพียงพอกับโลกที่มีความท้าทาย เปลี่ยนเร็ว    พนักงาน ทีมงานและองค์กร ต่างต้องการการสนับสนุนจากผู้ที่มาทำหน้าที่ “ผู้นำผู้รับใช้“  ซึ่งหัวหน้าทีมที่จะช่วยสนับสนุนให้องค์กรและผู้คนเติบโต จะต้องเป็น

  • ผู้สร้างพลัง และเป้าหมายร่วม (Good Communicator and Motivator) เป็นผู้สื่อสาร WHY สิ่งที่สำคัญของทีมและองค์กร ให้ทุกคนเข้าใจและรู้สึกร่วม ร่วมช่วยสร้างความมั่นใจ แรงจูงใจให้ทุกคนมีไฟที่จะทำงานร่วมกันอยู่เสมอ
  • เป็น ตัวกลาง ที่ช่วยประสานสร้างความเชื่อมโยง (Connector) ความสัมพันธ์  ความเป็นทีมให้เกิดขึ้นจากการยอมรับความเป็นตัวตนของสมาชิกเข้ามาสู่ทีม ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้ (Autonomy) รู้สึกปลอดภัย (Feel Safe)และเชื่อมโยงกัน (ไม่ใช่เพียงมาทำงานตามหน้าที่ใน JD) ด้วยความเป็นมนุษย์และเป้าหมายของทีมที่ทุกคนมีส่วนร่วม(จริงๆ)
  • เป็น ตัวจับสัญญาณและเครื่องฟอกอากาศ (Sensor) ที่ช่วยในจับสัญญาณชีพของสมาชิก และช่วยกรอง ช่วยรับฟังปัญหา ความรู้สึกจากทีม  ให้กลับมาพร้อม มามีพลังที่จะสร้างสรรค์งานและใช้ชีวิต
  • เป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ที่ช่วยให้สมาชิกได้รู้จักตัวเอง เห็นศักยภาพในตัวเองและนำมาใช้ในการสร้างผลงานและดำเนินชีวิต  รวมถึงช่วยแนะนำ ให้ Feedback ที่ทำให้สมาชิกได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
  • ผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวก (Supporter and Facilitator) คอยสนับสนุนการทำงานของทีม ให้มีความสะดวก ความพร้อมที่จะทำงานให้สำเร็จ รวมถึงช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ช่วยเติมความมีชีวิตชีวา ความสนุก และเกิดการพัฒนา เรียนรู้ร่วมกัน

 

ทั้งหมดคือ ส่วนที่เติมเต็มบทบาทของ หัวหน้าทีม (Supervisor)  แบบเดิมที่เราคาดหวัง  โดยทีม Excellent People ผู้ออกแบบโปรแกรมเชื่อว่า หัวหน้างาน หรือ หัวหน้าทีม คือตำแหน่งหรือบุคคลที่มีความสำคัญกับการสร้างทีมที่แข็งแรง รวมถึงการปลุกศักยภาพของสมาชิก เขาคือผู้ที่ใกล้ชิดกับสมาชิกในทีมทุกคน  โปรแกรม BEYOND SUPERVISOR ESSENTIALS  เป็นตัวช่วยขยายขีดความสามารถของผู้เรียน ไปสู่ ผู้นำทีม ที่มีความเป็น “ผู้นำผู้รับใช้” (Servant Leadership) ที่ช่วยสนับสนุน ให้เกิดทีมที่สามารถจัดการตัวเอง (Self-Management Team)  ที่สมาชิกทุกคนได้นำความเป็นผู้นำในตนเอง หรือ จุดแข็ง ออกมาช่วยพัฒนาผลงาน และนวัตกรรมการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยทำงานร่วมกันด้วยความสนุก จริงจัง (Playwork) และมีความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน (Trust)

 

โปรแกรมนี้จะใช้รูปแบบการพัฒนาแบบ CLP : Continuous Learning Program ซึ่งเน้นการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลา 3-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กร)  โดยเน้นการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง (Transformative Learning)   โดยโปรแกรมจะแบ่งเป็น

A) Learning Workshop 4 โมดูลๆ ละ 1 วัน โดยเน้นให้ Supervisor มือใหม่ และมีประสบการณ์มาก่อน ที่เข้าร่วม ได้ฝึกฝน
1) การเข้าใจในบทบาทของความเป็นหัวหน้าทีม (Supervisor’s roles)  และได้สัมผัสกับความเป็นผู้นำภายในตัวเอง ซึ่งถือเป็นประสบการณ์สำคัญที่ทำให้เราได้เข้าใจมนุษย์หรือทีมงานของเราแต่ละคนได้ (People Insight)   
2) ทักษะสำคัญการสื่อสารเพื่อสร้างความร่วมมือ และการสร้างทีมบนพื้นฐานของความหลากหลายแตกต่าง ให้กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว  (Empathic Communication and Team Collaboration)
3) การเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา (Mentoring) โดยใช้ทักษะและกระบวนการที่ช่วยพัฒนาศักยภาพ มุมมองความคิดให้สมาชิกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการถ่ายทอด ตั้งคำถาม สะท้อนกลับ ให้ Feedback และการให้คำแนะนำ  
4) บริหารผลงานทีมอย่างมีส่วนร่วม ผ่านแนวปฏิบัติและกระบวนการที่ช่วยให้ เกิดการกระจายงาน , การทบทวนและพัฒนาผลงาน , การตัดสินใจร่วมกัน ที่สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมและรู้สึก “อิน”(จริงๆ) รวมถึงได้เรียนรู้ สนุกไปด้วยกัน
 
 
B) Assignment และ การทำเอาโจทย์จริงมาทดลองทำไปพร้อมกับการเรียนรู้ (Work based-Learning) ในหลังจบการเรียนรู้แต่ละโมดูล จะมีกาวนสมาชิกทุกคนได้ให้โจทย์ให้แต่ละทีมได้ทำการบ้านกับทีมของตัวเอง พร้อมเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนทุกคนได้ขอคำปรึกษาจากทีม Facilitator ในกลุ่มไลน์ หรือ ปรึกษาส่วนตัว 
 
C) Group Coaching and Mentoring ในระหว่างโปรแกรม จะมีการติดตามผลการเรียนรู้หลังจากจบ Workshop จำนวน 2 ครั้งๆ ละ 3 ชั่วโมง แบ่งเป็น ครั้งแรก หลังจากจบโมดูลที่ 2 และครั้งที่สอง หลังจบโมดูลที่ 4   โดยใช้กระบวนการโค้ชกลุ่มและ Lab Learning มาปรึกษากันต่อ ถึงผลการพัฒนาและการได้ลองไปใช้งานจริงกับตัวเองและทีม 

*** CLP จะเน้นการพัฒนาที่ช่วยโค้ชเพื่อเปลี่ยนแปลงมายด์เซ็ทและพฤติกรรมของผู้เรียน ไปพร้อมกับการสร้างความเข้าใจ และการติดทักษะที่สำคัญไปในตัว

 

CORE COMPETENCIES OF SUPERVISOR 

1. SELF-LEADERSHIP

  • มีการตระหนักรู้และสามารถดำรงตนให้อยู่ในสภาวะพลังงานของความเป็นผู้นำที่เอื้อต่อการส่งเสริมผู้คนได้ - Self-Leadership and Self Awareness
  • เข้าใจในบทบาทของการเป็นหัวหน้าทีม ที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จและการเรียนรู้ เติบโตร่วมกันของทีม -Supervisor’s Roles
  • เข้าใจและเคารพในความแตกต่างของผู้คน ทั้งคุณค่า บุคลิกลักษณะ จุดแข็ง ข้อจำกัด สไตล์การสื่อสาร -People Insight

 

2. COLLABORATIVE COMMUNICATION

  • สามารถรับฟัง และสื่อสารด้วยความเข้าใจเชิงลึก ที่เข้าถึงความรู้สึก ความต้องการ  ที่ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันที่ราบรื่น - Empathic Communication
  • ช่วยสร้างบรรยากาศการสื่อสารที่ส่งเสริมความร่วมไม้ร่วมมือของทีมอย่างเต็มใจ  สามารถดูแลความต่าง ความขัดแย้งต่างๆ ให้เกิดเป็นความร่วมมือได้อย่างสร้างสรรค์ - Facilitate Work Collaboratively
 
3. MENTORING PRACTICE
  • เป็นที่ปรึกษาและโค้ชที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและการมีส่วนร่วม (Inspire and Engage People) ให้ทีมได้พัฒนาตัวเองและสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพต่อเนื่อง ผ่านตั้งคำถามชวนคิด การสะท้อน และให้คำปรึกษากับสมาชิก ให้พวกเขาสามารถดูแลจัดการตนเองได้ทั้งชีวิตและการงาน – Mentoring Skills
  • สามารถสร้างบทสนทนาที่ช่วยดึงศักยภาพ สร้างการมีส่วนร่วม การเรียนรู้และการสร้างผลงานที่ดีขึ้น ทั้งระดับบุคคล แบบคุยตัวต่อตัว และแบบกลุ่ม  - Create Grow Conversation for Individual and Group
  • ให้ Feedback และชื่นชมสมาชิกที่ทำให้เกิดพลัง ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง - Feedback & Recognition for Growth
  • สร้างประสบการณ์การเรียนรู้และบรรยากาศที่ช่วยสนับสนุนให้ทีมงานแต่ละคนให้เรียนรู้และเติบโตก้าวข้ามข้อจำกัดหรือเอื้อให้ได้ใช้จุดแข็งของแต่ละคนในการสร้างงานตามความตั้งใจได้  - Create Learning Environment to serve people growth

 

4. INSPIRING PERFORMANCE MANAGEMENT

  • เข้าใจและสามารถสร้างกระบวนการพัฒนาและบริหารผลงานทีม ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และครอบคลุมการเรียนรู้ของทีม การสร้างนวัตกรรมสิ่งใหม่ และการดูแลความสัมพันธ์ในทีม ไปพร้อมกันกับการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่องได้ - Continuous Performance Management in Practice   ** รวมการตั้งเป้าหมายงาน , การกระจายงาน ,การทบทวนผลงาน ,การพัฒนางาน ไว้ด้วยกัน
  • สร้างแรงจูงใจและบรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมให้ทีมงานมีพลังและกำลังใจในการสร้างผลงานร่วมกัน ได้อย่างสร้างสรรค์ - Creative Motivation

 

Visitors: 159,851